#โรงแรมใช้การเรียกและการแบ่งห้องพัก_ดูจากปัจจัยไหน_ในการเรียกและแบ่งแยกห้องพัก
การแยกแบบประเภทที่ 1 การแยกตามจำนวนและขนาดเตียงต่อห้อง
1.1 ห้องเดี่ยว (Single Bedded Room ) มีเตียงเดี่ยวสำหรับแขก 1 คน
1.2 ห้องเตียงคู่ หรือ ห้องทวิน (Twin Bedded Room) ห้องเตียงคู่แขกไม่เกิน 2 คน
1.3 ห้องคู่ (Double Bedded Room ) มีเตียงใหญ่ 1 เตียงสำหรับแขกพักไม่เกิน 2 คน
1.4 ห้องสูท หรือ ห้องสวีท (Suites) ประกอบด้วยห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่น
1.5 ห้องสตูดิโอ (Studio Room ) ห้องมีความกะทัดรัด ขนาดเล็ก ใส่เตียงคู่ได้เตียงเดียว
การแบ่งประเภทที่ 2 การพิจารณาจากขนาดห้องพักและ ทัศนีภาพ
2.1 Standard Room เป็นการแต่งแบบมาตราฐานทั่วไป โดยปกติราคาโรงแรมจะเริ่มจากตรงนี้ อาจจะแบ่งย่อยเป็น Single Bedded Room ,Twin Bedded Room
2.2 Superior Room เป็นห้อง Standard ที่ดีกว่าปกติ อาจจะ ใหญ่กว่า สวยกว่า ราคาจะสูงกว่ามาตราฐานเล็กน้อย
2.3 Deluxe Room เป็นห้องStandard ที่ตำแหน่งดี ตกแต่งสวยงาม กว้างขว้าง ราคาจะแพงที่สุด ประมาณนั้น
การแบ่งแยกประเภทที่ 3 สำหรับชั้นธุรกิจและชั้นพิเศษ
ชั้นนักธุรกิจ (Executive Floor)และชั้นพิเศษ (Presidential Suite) สำหรับการบริการที่มากกว่าระดับปกติ เช่นบางโรงแรมจะ เรียกชั้นรวมกันว่า Executive Floor กลุ่มห้องพักจะมีความพิเศษกว่า ห้องธรรมดา ใช้วัสดุอย่างดีในการตกแต่ง มีบริการพิเศษ เช่น ห้องประชุม ห้องอาหารเช้า มีบริการเลขา บริการต้นห้อง เรียกว่า บัตเลอร์ เป็นต้น
อีกบางประเภท ใช้เรียกกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง
Honeymoon Room เป็นห้องสำหรับคู่รัก ตกแต่งดีกว่ามาตราฐาน บรรยากาศดี
Family Room เป็นห้องที่มาเป็นครอบครัวส่วนใหญ่ พักได้ 4 คน ถ้ามีมากกว่านั้น
Grand Family Suite คือ ห้องพักที่มากกว่าครอบครัว อาจจะมีคุณปู่ คุณย่า ร่วมคณะมาด้วย
ขอบคุณความรู้จาก หนังสือเรื่อง เจ้าของโรงแรม รีสอร์ทขนาดเล็ก ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ